ที่ดินเปล่า กรมบังคับคดี ทรัพย์ขายทอดตลาด กรมบังคับคดี คืออะไร

ที่ดินเปล่า กรมบังคับคดี

ที่ดินเปล่า กรมบังคับคดี ทรัพย์ประมูล กรมบังคับคดี เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่น่าสนใจ สำหรับท่านที่กำลังมองหาบ้าน-คอนโด ขายทอดตลาด บ้านมือสอง สภาพดี ราคาเบาๆ ประมูลทรัพย์กรมบังคับคดีได้และสำหรับผู้สนใจดำเนินการประมูลทรัพย์ของกรมบังคับคดีแบบง่าย ๆ ต้องเข้าใจขั้นตอนการประมูลเสียก่อน

การประมูลทรัพย์สิน กรมบังคับคดี คือ การที่ลูกหนี้ถูกเจ้าหนี้ฟ้อง ต้องขายทรัพย์สินของลูกหนี้เพื่อชำระหนี้ กรมบังคับคดีจึงมีหน้าที่ขายทอดตลาดที่ดินบ้านหรือคอนโดซึ่งเป็นทรัพย์สินของจำเลย (ลูกหนี้) ตามคำพิพากษาของศาล หรือที่เรียกว่าหมายเลขคดีแดง ที่ดิน บ้านที่กรมบังคับคดีขายทอดตลาดมีวัตถุประสงค์เพื่อชำระหนี้แก่โจทก์ (เจ้าหนี้) เป็นหลัก

การเตรียมตัวประมูลทรัพย์ขายทอดตลาด กรมบังคับคดี

  1. ค้นหาบ้านที่ต้องการประมูล

สอบถามเงื่อนไขการประมูลบ้านแต่ละหลังได้ที่สายด่วนกรมบังคับคดี 02-881-4999

  1. จัดเตรียมเอกสารและเงินประกัน

เพียงใช้บัตรประชาชนพร้อมสำเนา หากมีผู้เสนอราคาแทน ให้ใช้หนังสือมอบอำนาจติดอากรแสตมป์ 30 บาท พร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ ในการประกันภัย ผู้เสนอราคาจะต้องเตรียมเงินสดหรือแคชเชียร์เช็คตามวงเงินประกันที่กรมบังคับคดีกำหนด ก่อนซื้อบ้าน-คอนโดขายทอดตลาด ควรตรวจดูรายละเอียดให้ดีเพื่อลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงก่อนขาย 

ขั้นตอนการประมูลทรัพย์ขายทอดตลาด กรมบังคับคดี

  1. ผู้ประมูลเข้าลงทะเบียน

ในวันประมูล ผู้เข้าร่วมประมูลต้องลงทะเบียนกับเจ้าหน้าที่ พร้อมวางเงินสดหรือแคชเชียร์เช็คเป็นหลักประกันและทำสัญญาประมูล จึงรับป้ายประมูลแล้วนั่งในที่ที่จัดไว้

  1. เจ้าพนักงานกำหนดราคาเริ่มต้น

ก่อนเริ่มประมูลเจ้าหน้าที่จะอธิบายเงื่อนไขการประมูลและกำหนดราคาเริ่มต้นของบ้านที่จะประมูลกับกรมบังคับคดีโดยสังเขป คณะกรรมการหรือเจ้าหน้าที่กรมบังคับคดีจะเป็นผู้กำหนดราคาเริ่มต้นในการประมูลรอบแรกแต่หากไม่มีผู้ประมูลในรอบนั้น ราคาเริ่มต้นในรอบที่ 2 จะลดเหลือ 90% ของราคาเริ่มต้น และในรอบที่ 3 จะลดเหลือ 80% ของราคาเริ่มต้น และราคาเริ่มต้นจะเป็น 70% ของราคาเริ่มต้นในรอบที่ 4 จนกว่าจะมีผู้เสนอราคา

  1. ผู้ประมูลยกป้ายเสนอราคา

เมื่อเจ้าหน้าที่เปิดประมูลผู้สนใจสามารถขึ้นป้ายขอราคาได้ที่ราคาเริ่มต้น หรือยกแท็กแข่งขันกับผู้ประมูลรายอื่น เจ้าหน้าที่จะเป็นผู้กำหนดว่าจะเพิ่มราคาครั้งละเท่าใด แต่ผู้ประมูลสามารถเพิ่มราคาได้เท่ากับหรือมากกว่าราคาที่กำหนด

  1. เจ้าพนักงานเคาะไม้ให้ผู้ชนะประมูล

เมื่อบ้านถูกประมูลโดยผู้เสนอราคาสูงสุด กรมบังคับคดีจะสอบถามผู้มีส่วนได้เสีย (ผู้แทนโจทก์หรือจำเลย) หากไม่มีผู้คัดค้าน เจ้าพนักงานจะเคาะไม้ขายเรือนนั้นแก่ผู้ชนะการประมูล ผู้ชนะการประมูลจะต้องชำระเงินและโอนกรรมสิทธิ์ในขั้นตอนต่อไป ส่วนผู้ประมูลแพ้รับเงินคืนทันที

การประมูลทรัพย์ขายทอดตลาด กรมบังคับคดี ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์

กรมบังคับคดีได้จัดประมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ ณ สำนักงานจังหวัด 9 แห่ง ได้แก่ นนทบุรี ชลบุรี นครปฐม นครราชสีมา ขอนแก่น เชียงใหม่ พิษณุโลก สุราษฎร์ธานี และสงขลา ซึ่งจะทำให้ผู้ที่อยู่ไกลจากสถานที่ประมูลสามารถเข้าร่วมได้สามารถเข้าประมูลได้จากสำนักงานบังคับคดีทั่วทุกภาค โดยผู้ที่สนใจต้องลงทะเบียนจองอุปกรณ์ล่วงหน้า ณ สำนักงานบังคับคดีที่ต้องการใช้บริการ

ขั้นตอนหลังการประมูลบ้านจากกรมบังคับคดี ขายทอดตลาด

  1. ทำสัญญาซื้อขาย

กรมบังคับคดีต้องทำสัญญาซื้อขายและชำระราคาประมูล ณ วันที่ซื้อ กรณีผู้ชนะการประมูลอยู่ระหว่างการรวบรวมเงินทุนหรือรอการอนุมัติเงินกู้จากธนาคาร กรมบังคับคดีสามารถขยายระยะเวลาได้ 15-90 วันทั้งนี้ต้องมีเหตุผลที่ถูกต้องหรือมีเอกสารยืนยันจากทางธนาคาร เงินประกันถือเป็นเงินมัดจำและไม่สามารถขอคืนได้

  1. โอนกรรมสิทธิ์

ผู้ชนะการประมูลจะไปดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์บ้านที่ประมูลได้จากกรมบังคับคดี ณ สำนักงานที่ดินด้วยตนเอง พร้อมมอบเอกสารสิทธิ์และเอกสารการโอนกรรมสิทธิ์ให้เจ้าหน้าที่กรมบังคับคดีทำหนังสือถึงเจ้าหน้าที่กรมที่ดิน

  1. ชำระค่าใช้จ่าย

หน่วยงานที่ได้รับเงินจะต้องเตรียมเข้าร่วมการขายทอดตลาดของกรมบังคับคดี

สำนักงานบังคับคดี

  • เงินที่จะวางเป็นหลักประกันการขายทอดตลาด ขึ้นอยู่กับราคาประเมินของบ้านที่จะซื้อ
  • ส่วนต่างจะจ่ายสำหรับส่วนที่เหลือของการประมูลหากสำเร็จ จากเงินออมของตนเองหรือจากเงินกู้ธนาคาร แนะนำให้ขอสินเชื่อกับธนาคารเจ้าของทรัพย์สินเพื่อความสะดวกในการทำธุรกรรม คุณควรรอจนกว่าคุณคิดว่าคุณจะเข้าร่วมการประมูลก่อนที่จะยื่นขอสินเชื่อกับธนาคารที่ผู้ซื้อมีบัญชีอยู่
  • ค่าอากรแสตมป์ 0.5% ของราคาซื้อขาย (ราคาที่ชนะการประมูล)

สำนักงานที่ดิน

  • ค่าโอน 2% ของราคาประเมินที่ดิน
  • ภาษีเงินได้ถูกหัก ณ ที่จ่าย ตามราคาประเมินของสำนักงานที่ดิน หักค่าใช้จ่ายตามที่กรมสรรพากรกำหนดแล้วคำนวณด้วยอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยไม่ยกเว้น 150,000 บาทแรก
  • ภาษีธุรกิจเฉพาะ 3.3% ของราคาขายหรือราคาประเมินสำนักงานที่ดิน (เลือกราคาที่สูงกว่า) หากต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ ให้นำใบเสร็จรับเงินที่ได้รับจากกรมที่ดินไปขอคืนค่าอากรแสตมป์ 0.5% ภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือโอนกรรมสิทธิ์จากกรมบังคับคดี
  • ค่าจดจำนอง 1% ของวงเงินจำนอง สูงสุด 200,000 บาท หากเป็นห้องชุดไม่มีเพดานสูงสุด

ธนาคาร (กรณีต้องกู้เงินจากธนาคาร)

  • ค่าประเมินราคาทรัพย์สิน (ตามประกาศธนาคาร)
  • ค่าอากรแสตมป์ 0.05% ของวงเงินกู้ สูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท
  • ค่าเบี้ยประกันอัคคีภัย (ตามอัตราของบริษัทประกันภัย)